เมื่อ Microsoft หันมาบุกตลาดสุขภาพด้วย Microsoft Band

May 30, 2015 6:41 pm3072 Views

ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่น่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมากสำหรับตลาด Gadget ในไทยปี 2015 นี้ เพราะทาง Microsoft ผู้พัฒนาซอร์ฟแวร์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกหันความสนใจมาทางด้านตลาดสุขภาพด้านการออกกำลังกาย และได้ทำการส่ง Microsoft Band สุดยอดสายรัดข้อมืออัจฉริยะที่จะช่วยให้การออกกำลังกายของผู้ใช้ง่ายดายขึ้น ซึ่งมาพร้อมกับระบบอำนวยความสะดวกมากมาย

เจ้า Microsoft Band ที่ว่านี้จะทำหน้าที่เหมือนกับ Fitness Tracker คือ มีการตรวจจับกิจกรรมต่างๆ ของร่างกายในการออกกำลังกายเหมือนกับ Fitness Tracker ทั่วไปที่มีอยู่ในตลาดแล้ว สิ่งที่ Microsoft เสริมเข้าไปอีกก็คือ เรื่องของการมีแพลตฟอร์มที่ดีกว่า และสามารถทำงานได้ทั้งบน Android, iOS และ Windows Phone ซึ่งมีเซ็นเซอร์อัจฉริยะภายในจำนวนมาก และสามารถใช้งานติดต่อกันได้นานถึง 48 ชั่วโมงต่อการชาร์จเพียงแค่ครั้งเดียว

Microsoft-Band_1

ในส่วนของเสป็คและความสามารถของเจ้า Microsoft Band ก็คือ

– ตัวเรือนเป็น Thermal plastic elastomer ตัวสายคาดมีด้วยกัน 3 ขนาดให้เลือก สามารถปรับขนาดได้เล็กน้อย ซึ่งส่วนนี้มีคำแนะนำว่าให้เลือกขนาดสายให้พอดีตั้งแต่ตอนที่ซื้อ เพราะถ้าขนาดสายไม่พอดีอาจจะทำให้ระบบเซ็นเซอร์มีการอ่านค่าที่คาดเคลื่อนได้นั่นเอง

– หน้าปัดเป็น TFT แบบ Capacitive มีขนาดหน้าจอ 1.4 นิ้ว (11 X 33 มม.) ความละเอียดของหน้าปัดอยู่ที่ 320 x 106 พิกเซล

– แบตเตอร์รี่ใช้แบบ Lithium ion ขนาด 100 mAh 2 ก้อน สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 48 ชม. สำหรับการใช้งานปกติ

– ระยะเวลาในการชาร์จ 1.5 ชั่วโมง

– Microsoft Band มีน้ำหนักประมาณ 60 กรัม ซึ่งถือว่าเบามาก เพื่อให้เหมาะกับการออกกำลังกายนั่นเอง

– สำหรับเจ้า Microsoft Band นั้น มีหน่วยความจำภายใน 64 MB และใช้การประมวลผลของ CPU : ARM Cortex M4 MCU

– สามารถทำงานได้ที่สภาวะความสูงไม่เกิน 12,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล และทำงานได้ที่อุณหภูมิประมาณ -10 ถึง 40 องศาเซลเซียส

– สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อื่นๆ ได้ด้วยระบบ Bluetooth 4.0

ความสามารถในโหมดของเซ็นเซอร์และการออกกำลังกาย

– มี Optical heart rate sensor สำหรับวัดอัตราการเต้นของหัวใจ

– มีระบบ 3-axis accelerometer/gyro วัดความเร็วและความเร่งของอุปกรณ์ได้

– ระบบ Gyrometer สำหรับวัดความเร็วเชิงมุม

– มีระบบค้นหา GPS สำหรับการจับตำแหน่งของอุปกรณ์และตัวผู้ใช้งาน

– ติดตั้งระบบ Ambient light sensor ซึ่งเป็นตัววัดและปรับความสว่างหน้าจอให้เหมาะสมได้

– มีระบบ Skin temperature sensor เซ็นเซอร์สามารถจับอุณหภูมิของผิวหนังได้

– UV sensor เซ็นเซอร์สามารถสัดแสงและค่า UV รวมไปถึงการเตือนขณะที่มีค่า UV เกินกว่าที่กำหนด (ผู้หญิงชอบ)

– ติดตั้งระบบ Galvanic skin response เซ็นเซอร์พิเศษที่ใช้สำหรับการวัดกระแสไฟฟ้าจากของเหลวบริเวณผิวหนัง หรือเหงื่อของผู้สวมใส่ และขอบอกว่ามันคือ เทคโนโลยีแบบเดียวกันกับที่ใช้ในเครื่องจับเท็จ นั่นเอง (เอาให้แฟนใส่แล้วจับโกหกแฟนได้ไหมเนี่ย – -!!)

– Microphone ใช้สำหรับการสั่งการสำหรับ Windows phone

– สามารถรองรับการทำงานระบบปฏิบัติการ iOS 7.1, Android 4.3 และ Windows phone 8.1

– มีระบบการรองรับการทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนหลากหลายระบบ

Microsoft-Band_2

ข้อเสียของเจ้า Microsoft Band

– ในส่วนของข้อเสียของเจ้า Microsoft Band นั้นในเรื่องระบบการใช้งานแทบจะไม่มีให้เห็นเลยก็ว่าได้ แต่ในส่วนของการออกแบบตัวสินค้านั้นถือว่าค่อนข้างมีปัญหาเลยทีเดียว เช่น

– ตัวสายไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้นั่นหมายความว่าต้องใช้สายที่ซื้อมาแต่แรกจนหมดอายุการใช้งาน หรือถ้าสายขาดก็อาจจะเป็นปัญหาใหญ่เลยทีเดียว เพราะอาจจะต้องส่งศูนย์เพื่อเปลี่ยนตัวใหม่

– ระบบ GPS ค่อนข้างใช้พลังงานสูง เพราะเมื่อเปิดใช้จะทำให้การชาร์จ 1 ครั้งจากที่สามารถใช้ได้ 48 ชั่วโมงจะเหลือเพียงแค่ 24 ชั่วโมงเท่านั้น

– สายรัดปรับขนาดได้น้อย คนอ้วนที่ออกกำลังกายและจนสามารถลดขนาดร่างกายได้มากกว่า 20 – 30 กิโลกรัม ถือว่าเป็นปัญหาเลยทีเดียว เพราะสายรัดปรับขนาดได้น้อย อีกทั้งไม่สามารถเปลี่ยนสายได้ งานนี้อาจจะต้องซื้อใหม่

Microsoft-Band_3

ถ้าดูข้อมูลโดยรวมของเจ้า Microsoft Band นั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่นำมาตีตลาด Fitness tracker โดยเฉพาะ เพราะนอกจากจะมีระบบและฟังก์ชั่นมากมายแล้ว ในอนาคต Microsoft ยังเตรียมแผนการพัฒนาแอพพลิเคชั่นเสริมของเจ้า Microsoft Band นี้ไว้อีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมแห่งการออกกำลังกายที่น่าจับตามองในปี 2015 นี้

ข่าวอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง (คลิกที่ tag ด้านล่าง)